ค้นหางานศิลปกรรม
ฐานข้อมูลศิลปกรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ประติมากรรมพระพุทธรูปนั่งห้อยพระบาท
พระพุทธรูปนั่งห้อยพระบาทองค์นี้ผ่านการบูรณะครั้งใหญ่มาแล้ว ครองจีวรห่มเฉียง บางแนบพระวรกาย ไม่มีริ้ว พระหัตถ์ขวาทำปางแสดงธรรม พระหัตถ์ซ้ายวางอยู่เหนือพรเพลา มีดอกบัวรองรับพระบาทไว้ พระพักตร์เหลี่ยม พระขนงนูนและต่อเป็นปีกกา พระเนตรเหลือบต่ำและโปน พระนาสิกใหญ่ พระโอษฐ์ใหญ่ ขมวดพระเกศาเวียนเป็นวงก้นหอย พระอุษณีษะสูง และมีพระรัศมีรูปลูกแก้ว
ประติมากรรมพระพุทธรูปประทับเหนือพนัสบดี
พระพุทธเจ้ายืนอยู่เหนือพาหนะ ขนาบข้างด้วยบุคคลข้างละ 1 คน พระหัตถ์ทั้งสองข้างทำปางแสดงธรรม มีรูเจาะทะลุปรากฏอยู่บริเวณพระชงฆ์ พาหนะทำเป็นรูปบุคคลขนาดใหญ่เห็นครึ่งตัว มีปีก สวมมงกุฎทรงกระบอก ถือดอกบัวในมือข้างละดอก บางท่านเรียกพาหนะแบบนี้ว่า พระอรุณาทิตย์ หรือพระอาทิตย์ เหนือดอกบัวแต่ละดอกเป็นรูปบุคคลยืน แม้จะชำรุดเสียหายแต่สังเกตได้ว่าบุคคลข้างหนึ่งถือแส้ สันนิษฐานว่าอาจเป็นรูปพระอินทร์และพระพรหม
ประติมากรรมฐานธรรมจักร
ฐานรับธรรมจักรนี้ชำรุดเสียหายมาก ทำจากหิน มีลักษณะเป็นก้อนสี่เหลี่ยมที่เจาะทะลุจากตรงกลางจากบนลงล่าง ทำหน้าที่ยึดตรึงองค์ธรรมจักรกับเสาไว้ด้วยกัน ด้านทั้งสี่สลักภาพพุทธประวัติตอนปฐมเทศนาเหมือนกัน แต่แตกหักเสียหายมาก มีเพียงด้านเดียวที่เหลือรายละเอียดมากพอจะศึกษาได้ พระพุทธองค์ประทับนั่งห้อยพระบาทบนบัลลังก์ พระหัตถ์ขวาทำปางแสดงธรรม พระหัตถ์ซ้ายวางเหนือพระเพลา เบื้องล่างด้านซ้ายของพระองค์เป็นนักบวชพราหมณ์ 5 คน เชื่อว่าเป็นปัญจวัคคีย์ก่อนบวช ด้านขวาของพระองค์เป็นพระสงฆ์ 5 รูป เชื่อว่าเป็นปัญจวัคคีย์หลัง ถัดขึ้นไปทั้งด้านขวาและซ้ายเป็นภาพบุคคลที่เชื่อว่าเป็นเทวดาและพรหม
ประติมากรรมธรรมจักร
ธรรมจักรวงกลมประกอบด้วยส่วนสำคัญ 3 ส่วน คือ ดุมอยู่ตรงกลาง มีรูเจาะทะลุที่เหนือดุม ซี่หรือกำ ระหว่างซี่แต่ละซี่ไม่เจาะทะลุทำให้ธรรมจักรองค์นี้แลดูทึบ นอกสุดเป็นกงซึ่งตกแต่งด้วยลายก้านขด เบื้องล่างสลักรูปบุคคลนั่งขัดสมาธิและถือดอกบัว สันนิษฐานว่าเป็นรูปพระสุริยเทพ
ประติมากรรมพระศรีศากยทศพลญาณประธานพุทธมณฑลสุทรรศน์
พระพุทธรูปลีลาเหนือฐานดอกบัว พระหัตถ์ซ้ายแสดงปางวิตรรกมุทรา พระพักตร์รูปไข่ค่อนข้างกลม คล้ายใบหน้าบุคคลจริง ขมวดพระเกศาเป็นก้นหอย มีอุษณีษะรองรับรัศมีเปลว พระกรรณยาว ครองจีวรห่มเฉียงเป็นริ้วอย่างธรรมชาติ มีสังฆาฏิพาดพระอังสา ชายจีวรละจากพระพุทธบัลลังก์ที่อยู่เบื้องหลังอย่างสมจริง
สถาปัตยกรรมเจดีย์จุลประโทน
เจดีย์จุลประโทนสร้างขึ้นจากอิฐ ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์มาแล้ว 1-2 ครั้งในอดีต สภาพปัจจุบันเหลือเพียงส่วนฐานและเรือนธาตุทึบตัน ส่วนยอดหักพังจนไม่เหลือร่องรอยแผนผังของฐานล่างสุดเป็นผังสี่เหลี่ยม ประดับด้วยเสาคั่นเป็นระยะ ระหว่างเสาแต่ละต้นประดับภาพปูนปั้นและดินเผาเล่าเรื่องชาดกในพุทธศาสนาและรูปอื่นๆ ปัจจุบันเคลื่อนย้ายไปยังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์ แล้ว กึ่งกลางของแต่ละด้านเป็นบันไดขึ้นสู่ลานประทักษิณ ทั้งนี้ฐานส่วนนี้ปัจจุบันจมอยู่ใต้ดินองค์ประกอบชั้นถัดมาเดิมทีเคยอยู่ในผังสี่เหลี่ยมยกเก็จที่กลางด้านและที่มุม อันเป็นระเบียบทั่วไปของเจดีย์ทวารวดี แต่ต่อมาถูกก่อทับโดยฐานสี่เหลี่ยมที่ประดับด้วยบัววลัยหรือกลศและเสาคั่นเป็นระยะ ทำให้เกิดพื้นที่สี่เหลี่ยมระหว่างเสา ปัจจุบันฐานสี่เหลี่ยมนี้ปรักหักพังลงทำให้บางด้านสามารถมองเห็นฐานยกเก็จที่ซ้อนอยู่ภายในได้ ถัดขึ้นไปเป็นเรือนธาตุทึบตัน ประกอบด้วยซุ้มจระนำประดิษฐานพระพุทธรูปเรียงรายโดยรอบ พระพุทธรูปได้รับการเคลื่อนย้ายไปยังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์ แล้ว ถัดขึ้นไปไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร แต่ ศาสตราจารย์ ปิแอร์ ดูปองส์ สันนิษฐานว่าอาจซ้อนชั้นขึ้นไปเช่นเดียวกันกับเจดีย์กู่กุด อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน
สถาปัตยกรรมวัดพระเมรุ
สภาปัจจุบันปรักหักพังเหลือแต่ฐานที่ผ่านการบูรณปฏิสังขรณ์แล้ว ไม่ทราบว่าส่วนยอดมีลักษณะเช่นใด แผนผังของวัดพระเมรุเป็นอาคารสี่เหลี่ยมที่มีการยกเก็จกลางด้านและมุม แต่ละเก็จมีบันไดทางขึ้น ตรงกลางเหลือเพียงแกนอิฐสี่เหลี่ยมที่ทำหน้าที่รับน้ำหนักส่วนยอด ด้านทั้งสี่ของแกนอิฐเคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปนั่งห้อยพระบาทด้านละ 1 องค์ มีทางเดินเวียนประทักษิณโดยรอบแกนอิฐและพระพุทธรูปเหล่านี้
สถาปัตยกรรมพระตำหนักชาลีมงคลอาสน์
พระตำหนักชาลีมงคลอาสน์เป็นพระตำหนักสองชั้นในผังสี่เหลี่ยมผืนผ้าหันด้านหน้าซึ่งเป็นด้านยาวไปทางทิศเหนือ ปลายสุดของด้านสกัดตะวันออก – ตะวันตกเป็นระเบียงโค้งครึ่งวงกลม มุมอาคารทั้ง 4 ทำเป็นเสากลมซึ่งมีชั้นบนใหญ่กว่าชั้นล่าง ปลายสุดทำเป็นทรงกรวยสองชั้น บริเวณทางเข้าด้านหน้าทำเป็นเสาคล้ายเสาที่มุมแต่สูงกว่า ยอดด้านหนึ่งทำทรงกรวยสองชั้นแต่แหลมสูงกว่าเสาที่มุม ยอดอีกด้านหนึ่งทำเป็นหลังคาจัตุรมุขมีหลังคาปีกนกรับโดยรอบ ชั้นล่างมีห้องใต้บันได ห้องโถงบันได ห้องโถงปีกตะวันตกและห้องส่งเครื่อง ชั้นบนมีห้องทรงพระอักษร ห้องบรรทมและห้องสรง