ค้นหางานศิลปกรรม

ฐานข้อมูลศิลปกรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

 
 
 
 
 
 
 

ปราสาทนารายณ์เจงเวง

คำสำคัญ : พระนารายณ์, ภาพสลัก, บาปวน, ปราสาทนารายณ์เจงเวง , วัดพระธาตุนารายณ์เจงเวง, ตำนานอุรังคธาตุ

ชื่อหลักวัดพระธาตุนารายณ์เจงเวง
ประเภทงานศิลปะสถาปัตยกรรม
ตำบลพังขว้าง
อำเภอเมือง
จังหวัดสกลนคร
ภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ประเทศไทย
พิกัดภูมิศาสตร์
ค่าองศาทศนิยม
Lat : 17.186971
Long : 104.095906
พิกัดภูมิศาสตร์
พิกัดกริด
Zone : 48 Q
Hemisphere : N
E : 403839.84
N : 1900452.92
ตำแหน่งงานศิลปะตั้งอยู่ภายในวัดพระธาตุนารายณ์เจงเวง

ประวัติการสร้าง

ไม่ปรากฏหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับประวัติการสร้าง

กระบวนการสร้าง/ผลิต

ตัวปราสาทก่อด้วยศิลาทราย ฐานก่อด้วยศิลาแลง

ลักษณะทางศิลปกรรม

ปราสาทนารายณ์เจงเวง เป็นปราสาทหลังเดี่ยว ก่อด้วยหินทราย ทั้งหลัง ซึ่งถือเป็นลักษณะพิเศษ เนื่องจากปราสาทในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนหลังอื่นๆมักใช้วัสดุอื่นหรือวัสดุผสม ถ้าอนุมานจากรายละเอียดของภาพสลักและการใช้วัสดุ ย่อมแสดงใหเห็นว่าปราสาทแห่งนี้มีความพิเศษที่แตกต่างไปจากปราสาทในบริเวณเดียวกัน เช่น ปราสาทพระธาตุดุม และปราสาทภายในพระธาตุเชิงชุม

แผนผังปราสาทประกอบด้วยห้องครรภคฤหะและมีมุขยื่นออกมาทางด้านทิศตะวันออก มีประตูทางด้านหน้าเพียงทิศเดียว ส่วนทิศอื่นเป็นประตูหลอก ซื่งปรากฏโดยปกติกับปราสาทในศิลปะบาปวนและนครวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย สิ่งที่น่าสนใจสำหรับปราสาทแห่งนี้ก็คือยังคงปรากฏโสมสูตรที่ประตูหลอกทางด้านทิศเหนือ

ภาพสลักส่วนมากเป็นภาพเล่าเรื่องในไวษณพนิกาย เช่น นารายณ์บรรทมสินธุ์ พระกฤษณะปราบสิงห์ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม หน้าบันกลางกลับแสดงภาพศิวนาฏราชซึ่งอาจแสดงให้เห็นว่าปราสาทแห่งนี้สร้างเพื่ออุทิศให้กับไศวนิกายมากกว่า
ข้อมูลที่สำคัญทางวิชาการ

เป็นปราสาทในวัฒนธรรมเขมรที่สำคัญในพื้นที่อีสานตอนบน

ข้อสังเกตอื่นๆ

ชื่อของปราสาทนั้นนำมาจากชื่อที่ปรากฏในตำนานอุรังคธาตุว่าอรดีมายานารายณ์เจงเวงเพื่อผนวกเรื่องราวตามที่ปรากฏในตำนาน หรืออีกข้อสันนิษฐานหนึ่งนั้นว่ามาจากภาษาเขมรว่า “นารายณ์เชิงแวง” หรือพระนารายณ์ขายาว เนื่องจากปรากฏภาพสลักรูปนารายณ์บรรทมสินธุ์ที่ทางด้านเหนือของปราสาท

ยุคประวัติศาสตร์
สมัย/รูปแบบศิลปะลพบุรี, บาปวน
อายุพุทธศตวรรษที่ 17
ศาสนาพุทธ
ลัทธิ/นิกายเถรวาท
ศาสนา/ความเชื่อที่เกี่ยวข้องพราหมณ์ไศวนิกาย ต่อมาได้รับการปรับเปลี่ยนเป็นพระธาตุในคติพุทธศาสนาเถรวาท
ตำนานที่เกี่ยวข้อง

ตามตำนานอุรังคธาตุกล่าวถึงโบราณสถานแห่งนี้ว่า ยังกล่าวว่า เมื่อพระมหากัสสปเถระและบริวารเดินทางมาถึงเมืองหนองหานหลวง กลุ่มสตรีชาวเมืองหนองหานได้ทูลขอแบ่งพระอุรังคธาตุ (กระดูกหน้าอก) ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่พระมหาเถระผู้ใหญ่มิได้ทรงอนุญาตด้วยผิดวัตถุประสงค์ที่พระพุทธองค์ที่ตรัสไว้ให้นำอุรังคธาตุไปประดิษฐานบรรจุเจดีย์ที่ภูกำพร้า กลางลำน้ำโขง(พระธาตุพนม) แต่มิให้เสียศรัทธา พระมหากัสสปะมอบให้พระอรหันต์รูปหนึ่งไปนำพระอังคารธาตุจากที่ถวายเพลิงพระศพสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ต่อมาพระยาสุวรรณภิงคารประสงค์จะขอแบ่งพระธาตุมาบ้าง จึงสร้างปราสาทภูเพ็กขึ้น โดยแข่งกับฝ่ายหญิงที่สร้างปราสาทนารายณ์เจงเวง ทั้งสองฝ่ายถือกติกาว่าถ้าดาวเพ็ก (ดาวศุกร์) ขึ้นให้หยุดสร้าง ในการก่อสร้าง ฝ่ายหญิงได้ออกอุบายแขวนโคมไว้บนยอดสูง ทำให้ฝ่ายชายเข้าใจผิดและหยุดสร้าง ปราสาทนารายณ์เจงเวงจึงเสร็จสมบูรณ์อยู่เพียงปราสาทเดียว

รูปแบบลิขสิทธิ์Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
เจ้าของสิทธิ์ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
วันที่จัดทำข้อมูล2016-06-02
ผู้จัดทำข้อมูลรุ่งโรจน์ ธรรมรุ่งเรือง
บรรณานุกรม

ดำรงราชานุภาพ, สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยา. เรื่องเที่ยวที่ต่าง ๆ ภาคที่ 4 : ว่าด้วยเที่ยวมณฑลนครราชสีมา มณฑลอุดร และมณฑลร้อยเอ็ด. พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ รองอำมาตย์เอก หลวงพิทักษ์พนมเขตร์ (สีห์ จันทรสาขา) 18 พฤษภาคม 2512.

ศันสนีย์ แสงบำเพ็ญ. การศึกษาปราสาทนารายณ์เจงเวง อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร. วิทยานิพนธ์หลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (โบราณคดีสมัยประวัติศาสตร์) ภาควิชาโบราณคดี บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร, 2529.

อุรังคธาตุ (ตำนานพระธาตุพนม). พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ : เรือนแก้วการพิมพ์, 2537.