ค้นหางานศิลปกรรม

ฐานข้อมูลศิลปกรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

 
 
 
 
 
 
 
แสดง 537 ถึง 544 จาก 880 รายการ, 110 หน้า
ปราสาทประธานของปราสาทโพกลวงการาย
ฟานรัง
สถาปัตยกรรมปราสาทประธานของปราสาทโพกลวงการาย

ปราสาทหลังนี้ มีลักษณะหลายประการคล้ายคลึงกับปราสาทสมัยบิญดิ่นอตนปลายอยู่ ทั้งรูปแบบเสาติดผนังที่มี 5 ต้น ไม่มีร่องไม่มีลาย รวมถึงซุ้มที่ยังคงเป็นใบหอกแบบบิ่ญดิ่น อย่างไรก็ตาม การที่ปราสาทจำลองที่ชั้นหลังคากลายเป็น “ทรงพุ่ม” นั้นแสดงให้เห็นว่าปราสาทหลังนี้สร้างขึ้นในสมัยหลังแล้ว

ปราสาทจำลองของปราสาทโพกลวงการาย
ฟานรัง
สถาปัตยกรรมปราสาทจำลองของปราสาทโพกลวงการาย

ปราสาทจำลองทรงพุ่ม ถือเป็นลักษณะเฉพาะของสถาปัตยกรรมสมัยหลังของจาม พัฒนามาจากปราสาทจำลองทรงถะจีนซึ่งนิยมมาก่อนในศิลปะบิญดิ่นตอนปลาย เช่นปราสาทจำลองของปราสาทแก๋งเตียนในจังหวัดบิญดิ่น ปราสาทจำลองแบบนี้ทำให้สามารถกำหนดอายุว่า ปราสาทโพกลวงการายควรสร้างในราวพุทธศตวรรษที่ 19 ลงมา

บรรณาลัย (?) ของปราสาทโพกลวงการาย
ญาจาง
สถาปัตยกรรมบรรณาลัย (?) ของปราสาทโพกลวงการาย

บรรณาลัยของปราสาทโพกลางการาย เป็นอาคารในผังสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีหลังคาเป็นทรงประทุน หรือทรงศาลา ในศัพท์สถาปัตยกรรมอินเดีย อนึ่ง บรรณาลัยปรากฏมาแล้วตั้งแต่ปราสาทมิเซิน โดยอยู่ในผังและมีหลังคาทรงนี้เสมอ รวมถึงตั้งอยู่ทางด้านข้างของปราสาทประธานเสมอๆ เนื่องจากบรรณาลัยแห่งนี้ตั้งอยู่ในกลุ่มปราสาทซึ่งกำหนดอายุอยู่ในสมัยหลัง ด้วยเหตุนี้ บรรณาลัยดังกล่าวจึงควรมีอายุอยู่ในระยะเดียวกัน ส่วนปราสาทจำลองทรงถะจีนที่มุมนั้นอาจแสดงถึงการสืบทอดรูปแบบมาจากสมัยบิญดิ่นตอนปลาย

ปราสาทโพโรเม
ญาจาง
สถาปัตยกรรมปราสาทโพโรเม

ปราสาทหลังนี้ เป็นปราสาทในระยะสุดท้ายของศิลปะจาม รายละเอียดต่างๆได้ถูกลดทอนจนหมดสิ้น ดังปรากฏเสาติดผนังเพียงสองต้น และมีซุ้มจระนำรูปใบหอก ด้านบนประดับปราสาทจำลองทรงพุ่มเช่นเดียวกับปราสาทโพกลวงการาย

จันทิปุนตเทพ
โวโนโซโบ
สถาปัตยกรรมจันทิปุนตเทพ

จันทิมีลักษณะคล้ายคลึงกับวิมานในศิลปะอินเดียใต้อย่างมาก กล่าวคือ เป็นจันทิในผังครรภคฤหะ มีมุขสั้นๆยื่นออกมาทางด้านหน้า เรือนธาตุประดับด้วยเสาติดผนังสี่ต้นแบ่งผนังออกเป็นสามส่วน (เก็จประธานและเก็จมุม) ชั้นหลังคามีเรือนธาตุจำลอง (ตละ) ซ้อนชั้นขึ้นไป ที่มุมประดับด้วยอาคารจำลอง (หาระ) การที่เส้นรอนอกของยอดมีลักษณะเป็นขั้นบันไดนั้นคล้ายคลึงกับวิมานในศิลปะอินเดียใต้อย่างมาก ลักษณะพิเศษเพิ่มเติมของจันทิหลังนี้ก็คือการปรากฏลวดลายตกแต่งซุ้มจระนำที่เก็จประธานเป็นรูปกรอบสี่เหลี่ยม และการตกแต่งเก็จมุมด้วยเสาและซุ้มซึ่งทั้งหมดนี้ไม่ปรากฏมาก่อนกับจันทิอรชุน

ฐานชั้นล่างที่บุโรพุทโธ
ไม่ปรากฏ
สถาปัตยกรรมฐานชั้นล่างที่บุโรพุทโธ

บุโรพุทโธสร้างขึ้นตามระบบ “มณฑล” หรือการจำลองจักรวาลในพุทธศาสนามหายาน ด้วยเหตุนี้ จึงกำหนดให้ฐานด้านล่างสุดตรงกับกามภูมิอันเป็นภูมิของคนที่มัวเมาในกิเลส โดยมีการสลักภาพตามคัมภีร์กรรมวิภังค์ อันแสดงถึงคนที่มัวเมาในกิเลส ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว อย่างไรก็ตาม ฐานนี้กลับถูกปกปิดไปด้วยฐานหินซึ่งมาก่อทับเพิ่มเติมทีหลัง อันแสดงการเปลี่ยนใจที่จะทำให้บุโรพุทโธมีฐานที่แบข็งแรงขึ้น

ทางประทักษิณและภาพสลักเล่าเรื่องที่บุโรพุทโธ
ไม่ปรากฏ
สถาปัตยกรรมทางประทักษิณและภาพสลักเล่าเรื่องที่บุโรพุทโธ

สถูปประกอบไปด้วยฐานสี่เหลี่ยมเพิ่มมุมจำนวนห้าชั้น แต่ละชั้นประกอบด้วยทางประทักษิณที่มีภาพเล่าเรื่องทางพุทธศาสนามหายานประดับ ภาพเล่าเรื่องเหล่านี้ มีภาพเล่าเรื่องตามคัมภีร์ลลิตวิสตระ คัมภีร์ชาดกและอวทาน (ระเบียงชั้นล่าง) และคัมภีร์คัณฑวยุหสูตร (ระเบียงชั้นที่ 2-4) ซึ่งทั้งหมดนี้นอกจากสลักขึ้นเพื่อให้ผู้ศรัทธาได้เรียนรู้เรื่องราวทางพุทธศาสนาขณะเดินประทักษิณแล้ว ยังเป็นการบ่งบอกภพภูมิต่างๆในพุทธศาสนามหายานซึ่งถูกจำลองที่บุโรพุทโธอีกด้วย

ฐานกลมและสถูปที่บุโรพุทโธ
โวโนโซโบ
สถาปัตยกรรมฐานกลมและสถูปที่บุโรพุทโธ

ฐานกลมด้านบนสุด เป็นฐานเขียงซึ่งไม่มีภาพสลักใดๆ อันบ่งบอกถึงความเป็น “อรูปภูมิ” ประกบด้วยสถูปโปร่งจำนวนมากซึ่งภายในประดิษฐานพระธยานิพุทธไวโรจนะแสดงปางปฐมเทศนา ประเด็นนี้ย่อมแสดงให้เห็นหัวเลี้ยวหัวต่อระหว่างความมีรูปกับความไม่มีรูป ด้านบนสุดปรากฏสถูปทึบเพียงองค์เดียว นั่นคอตัวแทนของพระอิพุทธ พระเทธเจ้าองค์แรกของจักรวาล ผู้เป็นอมตะ ไม่มีกาลเวลา เป็นผู้กำเนินพระพุทธเจ้าทั้งมวลในจักรวาลและเป็นผู้สร้างโลก ทรงไม่มีรูป