ค้นหางานศิลปกรรม

ฐานข้อมูลศิลปกรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

 
 
 
 
 
 
 
แสดง 849 ถึง 856 จาก 872 รายการ, 109 หน้า
จันทิอรชุน
โวโนโซโบ
สถาปัตยกรรมจันทิอรชุน

จันทิมีลักษณะคล้ายคลึงกับวิมานในศิลปะอินเดียใต้อย่างมาก กล่าวคือ เป็นจันทิในผังครรภคฤหะ มีมุขสั้นๆยื่นออกมาทางด้านหน้า เรือนธาตุประดับด้วยเสาติดผนังสี่ต้นแบ่งผนังออกเป็นสามส่วน (เก็จประธานและเก็จมุม) ชั้นหลังคามีเรือนธาตุจำลอง (ตละ) ซ้อนชั้นขึ้นไป ที่มุมประดับด้วยอาคารจำลอง (หาระ) การท่เส้นรอนอกของยอดมีลักษณะป้นขั้นบันไดนั้นคล้ายคลึงกับวิมานในศิลปะอินเดียใต้อย่างมาก

ภาพเล่าเรื่องตามคัณฑวยุหสูตร
ไม่ปรากฏ
ประติมากรรมภาพเล่าเรื่องตามคัณฑวยุหสูตร

รูปแบบศิลปะของภาพสลักที่บุโรพุทโธมีความคล้ายคลึงศิลปะอินเดียเป็นอย่างมาก ทั้งรูปแบบเครื่องแต่งกายของประติมากรรม ข้าวของเครื่องใช้ ตัวละครที่กลมกลึงและมีการเว้นพื้นที่ว่างเปล่า ทั้งหมดนี้แสดงว่าศิลปะชวาภาคกลางมีความเกี่ยวข้องอย่างมากกับศิลปะอินเดีย ตำนาน/เรื่องเล่าที่เกี่ยวข้อง

ภาพเล่าเรื่องรามายณะที่จันทิปรัมบะนัน
กลาเตน
ประติมากรรมภาพเล่าเรื่องรามายณะที่จันทิปรัมบะนัน

รูปแบบภาพล่าเรื่องที่จันทิปรัมบะนันมีพัฒนาการแล้วจากภาพเล่าเรื่องที่บุโรพุทโธ กล่าวคือ นิยมการถมพื้นที่ว่างจนเต็มไปด้วยลวดลายธรรมชาติ เช่น ภาพภูเขาและต้นไม้ ซึ่งแนวโน้มเช่นนี้เรียกโดยศาสตราจารย์หม่อมเจ้าสุภัทรดิศว่า “การรังเกียจพื้นที่ว่างเปล่า” ซึ่งแสดงแนวโน้มที่ใกล้เคียงกับศิลปะชวาภาคตะวันออกเข้าไปทุกที แม้ว่าลักษณะบางประการจะใกล้เคียงกับศิลปะชวาภาคตะวันออก แต่ภาพบุคคลยังคงกลมกลึงมีปริมาตร และหลายครั้งยังคงหันหน้าตรงตามแบบภาพเล่าเรื่องในศิลปะอินเดีย

ปราสาทประธาน: ปราสาทนครวัด
อังกอร์
ประติมากรรมปราสาทประธาน: ปราสาทนครวัด

ปราสาทประธานของปราสาทนครวัด มีลักษณะตามแบบพุทธศตวรรษที่ 17 กล่าวคือ สร้างด้วยหินทั้งหลังมีประตูทางออกสี่ทิศและมีมุขยื่นออกมาทั้งสี่ทิศ ซึ่งในที่นี่ต่อเชื่อกับระเบียงรูปกากบาท เรือนธาตุอยู่ในผังเพิ่มมุม ด้านบนเป็นยอดวิมานที่ประดับไปด้วยกลีบขนุนทำให้ปราสาทมียอดเป็นทรงพุ่ม อนึ่ง ปราสาทซึ่งใช้กลีบขนุนประดับยอดนี้ปรากฏในปราสาทอื่นๆในระยะร่วมสมัยด้วย เช่น ปราสาทบันทายสำเหร่และปราสาทพิมาย

พระโพธิสัตว์ จิตรกรรมในเจดีย์อโลปเย
พุกาม
จิตรกรรมพระโพธิสัตว์ จิตรกรรมในเจดีย์อโลปเย

พระโพธิสัตว์เหล่านี้แต่งตัวคล้ายคลึงกับศิลปะปาละอย่างมาก เช่น การทรงมงกุฎที่มีกระบังหน้าสามตาบ การทรงยัชโญปวีตตวัดเป็นรูปตัว S และการนุ่งผ้านุ่งเป็นริ้ว รวมถึงการปรากฏดอกไม้สองดอกขนาบทั้งสองข้างอย่างสมมาตรย่อมแสดงให้เห็นอิทธิพลปาละตอนปลายอย่างมาก จิตรกรรมเองก็ใช้สีโทนร้อนตามอย่างปาละ ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าจิตรกรรมดังกล่าวคงมีอายุอยู่ในสมัยพุกามตอนต้น

จิตรกรรมประกอบซุ้มในเจดีย์ปยาตองสู
พุกาม
จิตรกรรมจิตรกรรมประกอบซุ้มในเจดีย์ปยาตองสู

ซุ้มประตูของเจดีย์ปยาตองสูตกแต่งด้วยจิตรกรรมอย่างน่าสนใจ โดยตามเคล็กมีการถมด้วยลวดลายพันธ์พฤกษาแทนกลายเทวดาตามแบพุกามตอนปลาย ท่ปลายสุดของซุ้มปรากฏรูปกินนร-กินนรีกำลังยกมือไหว้ ซึ่งลวดลายนี้จะเป็นต้นแบบให้ศิลปะสุโขทัยและล้านนาในศิลปะไทย น่าสังเกตว่ากินนรกินนรีที่นี่สวมมงกุฎที่ประดับด้วยตามสามเหลี่ยมอันแสดงแรงบันดาลใจจากศิลปะปาละอย่างชัดเจน

มัสยิดอับดุลกัฟฟูร์
สิงคโปร์
สถาปัตยกรรมมัสยิดอับดุลกัฟฟูร์

เป็นมัสยิดที่ได้รับอิทธิดลตะวันตกอย่างมากมาย ทั้งในแง่ของเสาแบบโรมัน อาร์คที่ต่อเนื่องกันตามระบบ loggia ลวดลายที่ขื่อและการใช้โดมแบบตะวันตก โดยมีแผงด้านหน้าตกแต่งแบบศิลปะบารอก ในขณะเดียวกันเอง องค์ประกอบเล็กน้อย เช่นหอคอยปลอมขนาดเล็ก กลับถูกนำมาใช้ตกแต่งแทนที่ถ้วยรางวัลในศิลปะบารอก หอคอยขนาดเล็กเหล่านี้เป็นสิ่งเดียวที่แสดงออกถึงความเป็นอิสลามในมัสยิดแห่งนี้

โดมของมัสยิดอับดุลกัฟฟูร์
สิงคโปร์
สถาปัตยกรรมโดมของมัสยิดอับดุลกัฟฟูร์

เป็นมัสยิดที่ได้รับอิทธิพลตะวันตกอย่างมากมาย ทั้งในแง่ของเสาแบบโรมัน อาร์คที่ต่อเนื่องกันตามระบบ loggia ลวดลายที่ขื่อและการใช้โดมแบบตะวันตก โดมที่นี่มีลักษณะตามแบบคลาสิกในศิลปะตะวันตกอย่างมาก การรองรับโดมกลางเป็นอาร์คโค้งรองรับตามระบบ Pendentive ถัดขึ้นไปมีขื่อ รองรับคอโดมที่มีหน้าต่างโดยรอบสลับกับเสาไอโอนิก ด้านบนสุดเป็นโดมที่มี rib ต่อเนื่องจากเสาโดมข้นไปถึงบนยอด ทั้งหมดนี้เป็นระบบโดมแบบคลาสิกซึ่งแตกต่างไปจากโดมแบบอิสลามอย่างชัดเจน