ค้นหางานศิลปกรรม

ฐานข้อมูลศิลปกรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

 
 
 
 
 
 
 
แสดง 81 ถึง 88 จาก 168 รายการ, 21 หน้า
หน้าต่างของเจดีย์นันปยะ
พุกาม
ประติมากรรมหน้าต่างของเจดีย์นันปยะ

หน้าต่างของแจดีย์นันปยะถือเป็นหน้าต่างของเจตียวิหารในระยะแรกสุดของศิลปะพุกาม เป็นหนาต่างที่มีแผ่นหินมาปิดทำให้ภายในอาคารมืดทึบ ซึ่ถือเป็นสุนทรียภาพในสมัยพุกามตอนต้น ซุ้มเคล็กที่นี่เป็นเคล็กสั้นและเอียงเข้าหาจุดศูนย์กลางตามแบบพุกามตอนต้น ที่เสาติดผนังเองก็ปรากฏกาบบนแต่ไม่มีกาบล่างและประจำยามอก ซึ่งถือเป็นกาบในระยะแรกสุดของศิลปะพุกาม

ภาพชาดกดินเผา เรื่องพระมหาชนก
พุกาม
ประติมากรรมภาพชาดกดินเผา เรื่องพระมหาชนก

เจดีย์เป็นเล็กเป็นเจดีย์ทรงระฆังสมัยพุกามตอนต้น ได้รับอิทธิพลปาละ ที่ส่วนฐานปรากฏระเบียงซึ่งบรรจุภาพดินเผาเล่าเรื่องชาดกจำนวน 550 พระชาติ ภาพชาดกดังกล่าวทำจากดินเผาที่ยังไม่ได้เคลือบเขียวซึ่งแตกต่างไปจากเจดีย์ชเวซิกอง แสดงให้เห็นวาภาพชาดกนี้อาจอยู่ในสมัยก่อนพุกามหรือพุกามตอนต้นระยะแรก

ภาพชาดกดินเผา เรื่องสุวรรณสาม
พุกาม
ประติมากรรมภาพชาดกดินเผา เรื่องสุวรรณสาม

เจดีย์เป็นเล็กเป็นเจดีย์ทรงระฆังสมัยพุกามตอนต้น ได้รับอิทธิพลปาละ ที่ส่วนฐานปรากฏระเบียงซึ่งบรรจุภาพดินเผาเล่าเรื่องชาดกจำนวน 550 พระชาติ ภาพชาดกดังกล่าวทำจากดินเผาที่ยังไม่ได้เคลือบเขียวซึ่งแตกต่างไปจากเจดีย์ชเวซิกอง แสดงให้เห็นวาภาพชาดกนี้อาจอยู่ในสมัยก่อนพุกามหรือพุกามตอนต้นระยะแรก

เจดีย์บูพยา
พุกาม
สถาปัตยกรรมเจดีย์บูพยา

เจดีย์มีลักษณะเป็นทรงลอมฟาง ไม่มีฐาน อัณฑธยืดสูง ยอดมีลกัษณะเป็นทรงกรวยอย่างง่ายๆ ต่อขึ้นไปด้านบน ทั้งหมดนี้มีเค้าโครงคล้ายเจดีย์ในศิลปะศรีเกษตร เช่น เจดีย์ปยามาและเจดีย์โบโบจีเป็นอย่างมาก จึงแสดงให้เห็นว่าอาจสร้างขึ้นก่อนรัชสมัยพระเจ้าอโนรธา

เจดีย์นันปยะ
พุกาม
สถาปัตยกรรมเจดีย์นันปยะ

เจตียวิหารในระยะแรกสุดของศิลปะพุกาม เป็นอาคารทรงศิขระที่ยังคงมีการประดับกูฑุคล้ายคลึงกับศิลปะอินเดียเหนือ มีหน้าต่างบิดทึบจำนวนสามบานต่อด้านซึ่งตรงกับแนวความคิดของศิลปะพุกามตอนต้นที่ต้องการให้ภายในมืดทึบ ภายในอาคารปรากฏเสาสี่ต้นรองรับยอดศิขระ โดยรอบปรากฏภาพสลักพระพรหมซึ่งเป็นลักษณะพิเศษที่ปรากฏเฉพาะที่นี่เท่านั้นจากรูปแบบของศิขระและลวดลายประดับที่ยังคล้ายคลึงศิลปะอินเดียอยู่มาก จากกำหนดอายุโบราณสถานแห่งนี้อยู่ในสมัยพุกามตอนต้น

เจดีย์ชเวซิกอง
พุกาม
สถาปัตยกรรมเจดีย์ชเวซิกอง

เจดีย์ประกอบด้วยฐานในผังสี่เหลี่ยมเพิ่มมุมจำนวนสามชั้น แต่ละชั้นประดับภาพชาดกและมีทางประทักษิณพร้อมบันไดขึ้นทุกด้าน ที่มุมประดับด้วยสถูปิกะ องค์ระฆังประดับด้วยรัดอกและบัวคอเสื้อตามแบบเจดีย์พม่าโดยทั่วไป ไม่มีบัลลังก์ ถัดขึ้นไปได้แก่ปล้องไฉนทรงกรวยเตี้ย ปัทมบาทและปลีสั้นซึ่งถือเป็นลักษณะสำคัญของเจดีย์แบบพม่าในศิลปะพุกาม เจดีย์แบบพม่าแท้องค์นี้ เป็นต้นค้าให้กับเจดีย์แบบพม่าแท้องค์อื่นๆในศิลปะพุกามและศิลปะพม่าในสมัยหลัง จากรูปแบบศิลปกรรมนั้นสอดรับกับประวัติศาสตร์ที่ว่าเจดีย์องค์นี้ควรสร้างขึ้นในสมัยพุกามตอนต้น ราวพุทธศตวรรษที่ 16

เจดีย์ชเวซานดอ
พุกาม
สถาปัตยกรรมเจดีย์ชเวซานดอ

เจดีย์ประกอบด้วยฐานในผังสี่เหลี่ยมเพิ่มมุมจำนวนถึง 5 ชั้น ซึ่งมีจำนวนฐานมากกว่าเจดีย์ชเวซิกอง แต่ละชั้นมีทางประทักษิณพร้อมบันไดขึ้นทุกด้าน องค์ระฆังมีขนาดค่อนข้างเล็กเนื่องจากตั้งอยู่บนฐานสูง ไม่มีบัลลังก์ ถัดขึ้นไปได้แก่ปล้องไฉนทรงกรวยเตี้ย ปัทมบาทและปลี ด้วยเหตุที่ฐานที่มีจำนวนมากเกินไปและองค์ระฆังที่มีขนาดเล็กเกินไป ทำให้เจดีย์แบบพม่าแท้องค์นี้ไม่ได้รับการพัฒนาต่อ แตกต่างไปจากเจดีย์ชเวซิกองที่มีความลงตัวทางด้านสัดส่วนมากกว่า และได้รับสืบทอดไปสู่ศิลปะในระยะหลัง

เจดีย์โลกานันท์
พุกาม
สถาปัตยกรรมเจดีย์โลกานันท์

เจดีย์ประกอบด้วยฐานในผังแปดเหลี่ยมเพิ่มมุมจำนวนสามชั้น แต่ละชั้นประดับช่องที่ท้องไม้และมีทางประทักษิณพร้อมบันไดขึ้นทุกด้าน องค์ระฆังประดับด้วยรัดอกและบัวคอเสื้อตามแบบเจดีย์พม่าโดยทั่วไป อย่างไรก็ตาม การยืดสูงขององค์ระฆังทำให้สามารถระบุได้แน่ชัดว่าเจดีย์องค์นี้อยู่ในกลุ่มอิทธิพลปยู เจดีย์ไม่มีบัลลังก์ มีปล้องไฉนทรงกรวยเตี้ย ปัทมบาทและปลีสั้นซึ่งทั้งหมดนี้เป็นลักษณะร่วมกันของเจดีย์แบบพม่าแท้และเจดีย์กลุ่มอิทธิพลปยู เจดีย์แบบปยู ถือเป็นเจดีย์รุ่นเก่าที่สืบทอดมาตั้งแต่ก่อนรัชกาลพระเจ้าอโนรธาเรื่อยมาจนถึงรัชกาลดังกล่าว โยในรัชกาลนี้เจดีย์แบบปยูเริ่มใช้ฐานระบบพม่าแท้ตามอิทธิพลของเจดีย์ชเวซิกอง