ค้นหางานศิลปกรรม
ฐานข้อมูลศิลปกรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
สถาปัตยกรรมจันทิกิดาล
จันทิแห่งนี้ มีรูปแบบทางสถาปัตยกรรมที่ต่อมาจะกลายเป็นรูปแบบโดยทั่วไปของศิลปะชวาภาคตะวันออก กล่าวคือ เป็นจันทิขนาดเล็กที่มีห้องครรภคฤหะเพียงห้องเดียว ตั้งอยู่บนฐาน 3 ชั้นที่ เหนือประตูกลางปรากฏหน้ากาลที่มีลักษณะดุร้ายตามแบบศิลปะชวาภาคตะวันออก คือ เป็นหน้ากาลที่มีปากล่าง มีเขี้ยวยื่นออกมา มีเขาและมีมือที่ชูนิ้วขึ้นในท่าขู่ เรือนธาตุคาด “เส้นรัดอก” ซึ่งถือเป็นลักษณะเฉพาะของศิลปะชวาภาคตะวันออก ยอดของจันทิมีลักษณะที่ต่อมาจะปรากฏเสมอๆในศิลปะชวาภาคตะวันออก กล่าวคือ ปรากฏ “ชั้นหน้ากระดาน” สลับอาคารจำลองขนาดเล็กเรียงกันจำนวน 5 หลัง
สถาปัตยกรรมจันทิจาโก
ศาสนสถานมีฐานรองรับ 3 ชั้นโดยสลักเรื่องการวิวาทกันระหว่างราชวงศ์ปาณฑพและเการพในมหาภารตะ โดยเริ่มตั้งแต่พวกปาณฑพเล่นสกากับพวกเการพ การเปลื้องผ้านางเทราปตี การถูกขับไล่ออกจากเมืองจนถึงพระอรชุนไปบำเพ็ญตบะที่เขาอินทรกิละ และเรื่องการรับอาวุธปาศุปัตจากพระศิวะที่แปลงตนเองมาเป็นนายพรานชื่อกิราตะ หลังคาของปราสาทด้านบนได้หักพังลงมาหมดแล้ว แต่เป็นไปได้ที่หลังคาของปราสาทอาจเป็นเรื่องไม้มุงกระเบื้องหรือมุงฟาง โดยเป็นหลังคาลาดซ้อนชั้นตามแบบ “เมรุ” ก็ได้
สถาปัตยกรรมจันทิสิงหาส่าหรี
จันทิสิงหาส่าหรีมีลักษณะแผนผังที่แปลกประหลาด โดยห้องกลางของจันทิไม่สามารถเข้าไปได้ คือเป็นจันทิที่เรือนธาตุปิดเป็นห้องกรุทึบเนื่องจากตั้งอยู่ด้านบน ส่วนห้องที่มุขทั้ง 4 ทิศนั้นตั้งอยู่ที่ฐานด้านล่างและสามารถเข้าไปภายในได้ ห้องกลางประดิษฐานศิวลึงค์ ห้องด้านทิศใต้ประดิษฐานอคัสตยะ ห้องด้านทิศตะวันตกประดิษฐานพระคเณศ ส่วนด้านทิศเหนือประดิษฐานมหิษาสูรมรรทนี แผนผังแบบนี้ปรากฏมาแล้วตั้งแต่จันทิปรัมบะนันในศิลปะชวาภาคกลางตอนปลาย อาคารชั้นบนของจันทิสิงหาส่าหรีมีรูปแบบที่เทียบได้กับจันทิโดยทั่วไปในศิลปะชวาภาคตะวันออก คือ เรือนธาตุสี่เหลี่ยมจัตุรัสรัดด้วยรัดอก ทั้งสี่ด้านปรากฏประตูหลอกซึ่งมีหน้ากาลประดับอยู่ด้านบน ถัดขึ้นไปได้แก่ชั้นซ้อนซึ่งประกอบด้านหน้ากระดานสลับกับอาคารจำลอง
สถาปัตยกรรมจันทิจาวี
จันทิประกอบด้วยเรือนธาตุซึ่งมีลักษณะเป็นห้องสี่เหลี่ยมขนาดเล็กตามแบบศิลปะชวาภาคตะวันออก ด้านหน้ามีประตูขนาดใหญ่ มีเส้นรัดอกคาดเรือนธาตุและหน้ากาลมีลักษณะดุร้ายตามแบบศิลปะชวาตะวันออก ส่วนยอดนั้นมีลักษณะตามแบบศิลปะชวาภาคตะวันออกโดยทั่วไป กล่าวคือ ประกอบด้วย “ชั้นหน้ากระดาน” ซ้อนกันถี่มากจนเส้นรอบนอกของยอดเป็นเส้นตรง ซึ่งแสดงความใกล้ชิดกับยอดแบบ “เมรุ” ในศิลปะบาหลีเข้าไปทุกที ที่มุมของหลังคาเทวาลัยทุกชั้นประดับด้วยหน้ากาลรูปสามเหลี่ยม ซึ่งยอดเมรุสลักหินในศิลปะบาหลีก็จะปรากฏการประดับทำนองนี้เช่นกัน
ประติมากรรมครุฑกำลังนำน้ำอมฤต
จันทิกิดาล เป็นสถานที่ฝังพระอัฐิของพระเจ้าอนุษบดีแห่งราชวงศ์สิงหาส่าหรี พระเจ้าอนุษบดีสวรรคตใน พ.ศ.1791 เนื่องจากการสวรรคตกับพิธีศราทธ์ที่อุทิศเทวาลัยน้ำต้องห่างกัน 12 ปีเสมอ เทวาลัยหลังนี้จึงควรสร้างเสร็จใน พ.ศ. 1803 จันทิแห่งนี้มีภาพเล่าเรื่องพญาครุฑขโมยน้ำอมฤตเพื่อมาช่วยพระมารดา น้ำอมฤตเป็นน้ำแห่งความเป็นอมตะ ด้วยเหตุนี้ จึงสัมพันธ์กับคติเทวาราชา คือช่วยให้ผู้ตายได้รับชีวิตอมตะ