ค้นหางานศิลปกรรม
ฐานข้อมูลศิลปกรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ประติมากรรมทวารบาล
ทวารบาล สลักจากหินทราย มีใบหน้าดุร้ายคล้ายยักษ์ ทรงกระบังหน้า ตุ้มหูเป็นรูปวงกลมขนาดใหญ่ ประดับด้วยกรองศอ พาหุรัด กำไล และอุทรพันธะซ้อนกัน 2 เส้น นุ่งผ้านุ่งเรียบ ที่ด้านข้างมีชายผ้าเป็นรูปวงโค้งตกลงมา ส่วนด้านหน้ามีชายผ้าตกลงมาเหนือเข่า ตกแต่งด้วยเข็มขัดซ้อนกัน 2 เส้น เส้นล่างมีพู่ห้อย ทวารบาลอยู่ภายในซุ้มเรือนแก้ว ปลายกรอบเป็นรูปหัวมกรขนาดใหญ่หันหัวออก เหนือขึ้นไปเป็นชั้นหลังคาทรงปราสาท
ประติมากรรมทวารบาล
ทวารบาล สลักจากหินทราย ส่วนเศียรชำรุดเสียหายไปมากแล้ว แต่ก็พอสังเกตุเค้าโครงได้ว่าน่าจะสวมกระบังหน้า มีรัดเกล้าเป็นทรงกรวยแหลม ประดับด้วยตุ้มหู กรองศอ พาหุรัด กำไล ไม่สวมเสื้อ นุ่งผ้านุ่งยาว แบบมีริ้วทั้งผืน ขอบผ้านุ่งด้านบนมีชายผ้าเป็นรูปสามเหลี่ยมและวงโค้งห้อยตกลงมา ตกแต่งด้วยเข็มขัด 2 เส้น ที่เส้นล่างมีพู่ห้อย ทวารบาลอยู่ภายในซุ้มเรือนแก้ว ปลายกรอบเป็นรูปหัวมกรขนาดใหญ่หันหัวออก เหนือขึ้นไปเป็นชั้นหลังคาทรงปราสาท
ประติมากรรมหน้าบัน สลักภาพเล่าเรื่องนรสิงห์
หน้าบันมีลักษณะยืดสูงเป็นทรงสามเหลี่ยม มีกรอบซุ้มเป็นซุ้มคดโค้ง กล่าวคือมีการทำกรอบโค้งเข้าโค้งออกอย่างสวยงาม ปลายกรอบซุ้มเป็นรูปนาคหลายเศียรตามแบบหน้าบันในสมัยพระนครตอนปลาย ตรงกลางหน้าบันปรากฏภาพสลักเล่าเรื่องเป็นรูปนรสิงห์แหวกอกอสูร
ประติมากรรมหน้าบัน สลักภาพอุมามเหศวร
หน้าบันมีลักษณะยืดสูงเป็นทรงสามเหลี่ยม มีกรอบซุ้มเป็นซุ้มคดโค้ง กล่าวคือมีการทำกรอบโค้งเข้าโค้งออกอย่างสวยงาม ปลายกรอบซุ้มเป็นรูปนาคหลายเศียรตามแบบหน้าบันในสมัยพระนครตอนปลาย ตรงกลางหน้าบันปรากฏภาพสลักเล่าเรื่องเป็นรูปอุมามเหศวร
ประติมากรรมหน้าบัน สลักภาพคชลักษมี
หน้าบันมีลักษณะยืดสูงเป็นทรงสามเหลี่ยม มีกรอบซุ้มเป็นซุ้มคดโค้ง กล่าวคือมีการทำกรอบโค้งเข้าโค้งออกอย่างสวยงาม ปลายกรอบซุ้มเป็นรูปนาคหลายเศียรตามแบบหน้าบันในสมัยพระนครตอนปลาย ตรงกลางหน้าบันปรากฏภาพสลักเล่าเรื่องเป็นรูปคชลักษมี
ประติมากรรมทวารบาล
ทวารบาล สลักจากหินทราย ทำผมทรงชฎามงกุฎ ซึ่งเป็นชฎามงกุฎทรงกระบอก ตามแบบศิลปะสมัยเมืองพระนคร เปลือยกายท่อนบน ไม่สวมเสื้อ และเครื่องประดับ นุ่งผ้านุ่งเรียบ ที่ด้านข้างมีถุงชายพกเป็นรูปวงโค้งตกลงมา ปลายชายพกยัดกลับขึ้นไปตรงกลางผ้านุ่งแล้วปล่อยชายผ้าออกมา ทวารบาลอยู่ภายในซุ้มเรือนแก้ว เป็นซุ้มคดโค้งตามแบบศิลปะบันทายศรี
ประติมากรรมทับหลัง สลักภาพเล่าเรื่องพระกฤษณะปราบพระยากงส์
ทับหลังในสมัยบันทายศรีจะมีลักษณะรับอิทธิพลมาจากศิลปะเกาะแกร์ มาผสมผสานกับศิลปะพระโค กล่าวคือการทำภาพเล่าเรืองอยู่กึ่งกลางทับหลังกดทับท่อนพวงมาลัยให้โค้งลงมาอยู่ด้านล่างของทับหลัง ท่อนพวงมาลัยมีการทำลายใบไม้ตั้งขึ้น และใบไม้ห้อยลงตามอีกทั้งยังปรากฏการทำพวงอุบะแทรกอยู่ในส่วนของใบไม้ห้อยลงตามแบบศิลปะพระโค ลักษณะเด่นของทับหลังในสมัยนี้ก็คือการประดับบริเวณเสี้ยว (เศษ 1 ส่วน 4) ของท่อนพวงมาลัยด้วยรูป “ใบหน้าสัตว์ขบท่อนพวงมาลัย” ซึ่งต่อไปจะเป็นต้นแบบของเสี้ยวพวงอุบะในศิลปะบาปวน ตรงกลางของทับหลัง ปรากฏภาพเล่าเรื่องพระกฤษณะปราบพระยากงส์
ประติมากรรมหน้าบัน สลักภาพเล่าเรื่องตอนกฤษณะปราบพระยากงส์
หน้าบันมีลักษณะยืดสูงเป็นทรงสามเหลี่ยม มีกรอบซุ้มเป็นซุ้มคดโค้ง กล่าวคือมีการทำกรอบโค้งเข้าโค้งออกอย่างสวยงาม ปลายกรอบซุ้มเป็นรูปนาคหลายเศียรตามแบบหน้าบันในสมัยพระนครตอนปลาย ตรงกลางหน้าบันปรากฏภาพสลักเล่าเรื่องเป็นรูปพระกฤษณะปราบพระยากงส์