ค้นหางานศิลปกรรม

ฐานข้อมูลศิลปกรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

 
 
 
 
 
 
 

เทวดาปูนปั้น

คำสำคัญ : วิหารมหาโพธิ์, วัดมหาโพธาราม, ศิลปะล้านนา, เทวดา, วัดโพธารามมหาวิหาร

ชื่อหลักวัดโพธาราม มหาวิหาร
ชื่ออื่นวัดเจ็ดยอด
ประเภทงานศิลปะประติมากรรม
ตำบลช้างเผือก
อำเภอเมือง
จังหวัดเชียงใหม่
ภาคภาคเหนือ
ประเทศไทย
พิกัดภูมิศาสตร์
ค่าองศาทศนิยม
Lat : 18.80906
Long : 98.971712
พิกัดภูมิศาสตร์
พิกัดกริด
Zone : 47 Q
Hemisphere : N
E : 497019.35
N : 2079700.91
ตำแหน่งงานศิลปะผนังของวิหารเจ็ดยอด หรือวิหารมหาโพธิ์

ประวัติการสร้าง

ตำนานทางล้านนา เช่น ชินกาลมาลีปกรณ์ ให้ข้อมูลว่าวัดมหาโพธารามแห่งนี้สร้างขึ้นโดยพระเจ้าติโลกราช โดยพระองค์ได้สดับธรรมบรรยายถึงอานิสงส์ของการปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์ จึงโปรดให้สร้างวัดมหาโพธารามขึ้นเพื่อปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์ เมื่อ พ.ศ. 1999 นอกจากนี้พระองค์ยังโปรดให้สร้างสิ่งก่อสร้างต่างๆ ขึ้นอีก คือ สร้างเวทีให้เห็นเหมือนต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่พระพุทธองค์ผจญมาร และสัตตมหาสถาน ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2020 โปรดให้สร้างมหาวิหารขึ้นในวัดนี้ ซึ่งอาจหมายถึงอาคารที่เรียกกันในปัจจุบันว่าวิหารเจ็ดยอดก็เป็นได้

ส่วนพงศาวดารโยนกเอ่ยถึงประวัติได้อย่างสังเขปว่า พ.ศ. 1998 พระเจ้าติโลกราชโปรดให้ปลูกโพธิ์ลังกาและสร้างมหาอาราม พร้อมทั้งผูกพัทธสีมา เรียกนามอารามว่า วัดโพธารามหาวิหาร
ประวัติการอนุรักษ์

ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานในราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ 52 ตอนที่ 75 วันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2478

กรมศิลปากรดำเนินการบูรณะและอนุรักษ์ประติมากรรมปูนปั้นตั้งแต่ปีพ.ศ. 2517 -2518โดยรักษาสภาพเดิมเป็นหลักเพื่อให้มั่นคงแข็งแรงตามลักษณะและแนวเดิม

ในปีพ.ศ. 2535 มีการอนุรักษ์ประติมากรรมอีกครั้ง โดยทำการบันทึกสภาพทั้งก่อน ระหว่างและหลังอนุรักษ์ ประติมากรรมที่เป็นชิ้นใหญ่จะใช้การเสริมความมั่นคงด้วยแกนเหล็กไร้สนิม เมื่อทำความสะอาดแล้วจึงเสริมความมั่นคงของชั้นปูน
ลักษณะทางศิลปกรรม

การสร้างประติมากรรมรูปเทวดาที่รอบผนังวิหารใช้เทคนิคการก่อแนวอิฐหรือศิลาแลงขนาดไม่ใหญ่นักให้ยื่นล้ำออกมาจากผนังแล้วพอกปูนเพื่อให้ยึดเกาะกับผนัง จึงเกิดเป็นประติมากรรมนูนสูง รูปเทวดาประทับนั่งอยู่บริเวณผนังด้านทิศเหนือและทิศใต้ ส่วนเทวดาประทับยืนอยู่บริเวณผนังเพิ่มมุม ประติมากรรมทั้งหมดแบ่งเป็น 2 แถวตามแนวยาวของอาคาร โดยมีเสาปูนปั้นแบ่งคั่นจังหวะ เทวดาแต่ละองค์มีพระพักตร์รูปไข่ แย้มพระโอษฐ์ พระอังสาใหญ่ บั้นพระองค์เล็ก สวมเครื่องประดับ ได้แก่ กรัณฑมงกุฎซึ่งมีประภามณฑลล้อมรอบ พาหุรัด กรองศอ ธำมรงค์ อุทรพันธะ นุ่งผ้ายาวกรอมข้อเท้าชักชายผ้าแผ่ออกมาที่ด้านหน้า และมีชายผ้าพลิ้วไหวผูกเป็นโบว์ที่ข้างลำตัวซึ่งแสดงให้เห็นว่าเทวดาเหล่านั้นกำลังเหาะท่ามกลางอากาศ รูปแบบการแต่งกายสัมพันธ์กับประติมากรรมรูปเทวดาในศิลปะลังกา ใกล้กันมีลวดลายปูนปั้นประดับ เช่น ลายมุกไฟ ลายดอกไม้ร่วง เช่น ดอกจำปา และดอกโบตั๋น

ข้อมูลที่สำคัญทางวิชาการ

1. ประติมากรรมปูนปั้นรูปเทวดาประดับผนังวิหารมหาโพธิ์เป็นงานปูนปั้นที่มีลักษณะเด่นและมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดี มีความสำคัญทางศิลปะเนื่องจากถือได้ว่าเป็นต้นแบบในการกำหนดอายุของศิลปกรรมล้านนาในช่วงต้นพุทธศตวรรษที่ 21

2.การประดับรูปเทวดาที่ผนังโดยรอบวิหารน่าจะหมายถึงพุทธประวัติตอนที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้และมีเหล่าเทวดามาชุมนุมกันเพื่อแสดงความยินดีพร้อมกับมีดอกไม้ทิพย์จากสรวงสวรรค์ร่วงหล่นลงมา ซึ่งคล้ายกันกับการแสดงภาพเทพชุมนุมในงานจิตรกรรมไทย แต่ในที่นี้เป็นการประดับอยู่ภายนอกอาคาร ซึ่งจะสังเกตได้ว่าเทวดาทุกองค์เบนพระพักตร์ไปทางที่ตั้งของต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่อยู่ท้ายวิหารอันหมายถึงสถานที่ประทับตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า

ยุคประวัติศาสตร์
สมัย/รูปแบบศิลปะล้านนา
อายุพุทธศตวรรษที่ 20-21
ศาสนาพุทธ
ลัทธิ/นิกายเถรวาท
ศาสนา/ความเชื่อที่เกี่ยวข้องพุทธศาสนาเถรวาท
งานศิลปะที่เกี่ยวข้อง

1.รูปแบบศิลปะของประติมากรรมเทวดามีความสัมพันธ์กับศิลปะลังกาเช่น เทวดาที่ประดับผนังวิหารเหนือหรือวิหารติวังกะ ศิลปะสมัยโปลนนารุวะ ราวพุทธศตวรรษที่ 17-18

2.ลายปูปั้นอื่นๆ เช่น ลายดอกโบตั๋น ลายเมฆ ลายมุกไฟ เป็นอิทธิพลศิลปะจีนที่นิยมในล้านนาช่วงพุทธศตวรรษที่ 21

รูปแบบลิขสิทธิ์Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
เจ้าของสิทธิ์ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
วันที่จัดทำข้อมูล2015-07-09
ผู้จัดทำข้อมูลรุ่งโรจน์ ธรรมรุ่งเรือง
บรรณานุกรม

ธวัชชัย ปุณณลิมปกุล.วัดเจ็ดยอด จังหวัดเชียงใหม่ . กรุงเทพฯ: ฝ่ายอนุรักษ์จิตรกรรมและประติมากรรมติดที่ กองโบราณคดี, 2537.

ศิลปากร, กรม.การขึ้นทะเบียนโบราณสถานภาคเหนือในความรับผิดชอบของหน่วยศิลปากรที่ 4 ตามโครงการสำรวจและขึ้นทะเบียนโบราณสถานของกองโบราณคดี. กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร, 2525.

ศักดิ์ชัย สายสิงห์. ศิลปะล้านนา. กรุงเทพฯ : มติชน, 2556.

สันติ เล็กสุขุม. ศิลปะภาคเหนือ : หริภุญชัย-ล้านนา. กรุงเทพฯ : เมืองโบราณ, 2549.