ค้นหางานศิลปกรรม
ฐานข้อมูลศิลปกรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
สถาปัตยกรรมเจดีย์วัดป่าสัก
องค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมของเจดีย์วัดป่าสัก ได้แก่ ส่วนฐานซึ่งประกอบด้วยฐานเขียงและฐานบัว ที่ท้องไม้ของฐานบัวชั้นล่างทำเป็นช่องสี่เหลี่ยม ชั้นบนประดับด้วยช่องแปดเหลี่ยมโดยรอบ คล้ายกับส่วนฐานของสถาปัตยกรรมสมัยทวารวดี ส่วนเรือนธาตุชั้นล่างเป็นช่อจระนำประดิษฐานพระพุทธรูปด้านละ 3 ซุ้ม มีซุ้มสลับซุ้มจระนำรูปเทวดา ส่วนฐานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปนี้จึงมีรูปแบบใกล้เคียงกับเจดีย์กู่กุดในศิลปะหริภุญชัย ถัดขึ้นมาเป็นชุดเขียงรองรับเรือนธาตุชั้นที่สอง ซึ่งมีซุ้มจระนำประดิษฐานพระพุทธรูปด้านละ 1 องค์ ประดับลวดลายปูนปั้นที่ซุ้มจระนำซึ่งสัมพันธ์กับศิลปะพุกามอย่างที่เรียกว่าซุ้มเคล็ก ส่วนยอดเป็นส่วนของเจดีย์ทรงระฆังที่ไม่มีบัลลังก์ และมีเจดีย์ขนาดเล็กหรือสถูปิกะประดับที่มุมทั้ง 4 องค์เจดีย์ประดับด้วยลวดลายปูนปั้นซึ่งได้รับอิทธิพลศิลปะจีน
สถาปัตยกรรมปราสาทดำไรกราบ
ปราสาทจามสมัยหัวล่าย ประกอบด้วยเสาติดผนังจำนวน 4 ต้นเสมอ กึ่งกลางเสาประดับด้วย “แถบลาย” ขนาดใหญ่เช่นเดียวกับปราสาทหัวล่ายในเวียดนาม นอกจากนี้ที่บัวหัวเสายังปรากฏเค้าโครงของครุฑแบกซึ่งคล้ายคลึงกับส่วนเดียวกันของปราสาทหัวล่ายด้วย อย่างไรก็ตาม ปราสาทแห่งนี้กลับสลักไม่เสร็จ จึงยังไม่ปรากฏลวดลายใดๆบรรจุอยู่ในแถบลายกึ่งกลางเสา
ประติมากรรมภาพสลักรูปปราสาท บนผนังที่ปราสาทสมโบร์ไพรกุก
เป็นปราสาทที่สร้างจากอิฐ อยู่ในผังสี่เหลี่ยม มีเสาติดผนังที่มุมของเรือนธาตุ มีทางเข้าทางเดียว อีกทั้งสามทางเป็นประตูหลอก หลังคาทำเป็นเรือนธาตุจำลองซ้อนชั้นตามแบบวิมานของอินเดียใต้ ปราสาทตั้งอยู่บนพื้นราบ ไม่มีการทำฐานซ้อนชั้น
ประติมากรรมทับหลัง
ทับหลังในภาพ เป็นรูปแบบของทับหลังในศิลปะไพรกเมงที่จะคลี่คลายไปสู่แบบศิลปะกำพงพระ โดยมีการทำเส้นวงโค้งเป็นเส้นตรงเพียงเส้นเดียว กลางทับหลัง และปรากฏเหรียญอยู่กลางเส้นวงโค้ง ตามรูปแบบของศิลปะไพรกเมง แต่อย่างไรก็ตามตัวเหรียญได้ปรับเปลี่ยนเป็นลักษณะของลายใบไม้ซึ่งเหมือนกับปลายของทับหลังทั้งสองด้านปรากฏเป็นลายใบไม้ขนาดใหญ่ซึ่งต่อมาลายใบไม้ดังกล่าวจะเป็นที่นิยมในศิลปะกำพงพระ
สถาปัตยกรรมปราสาทบากอง
ปราสาทประธานจำนวน 1 หลังตั้งอยู่บนฐานเป็นชั้น ล้อมรอบด้วยปราสาทหลังเล็กๆ จำนวนหนึ่ง ด้านหน้ามีซุ้มประตูสำหรับทางเดินขึ้น ส่วนปราสาทหลังอื่นๆ ที่มีขนาดใหญ่นั้น สร้างด้วยอิฐและตั้งอยู่บนพื้น กระจายตัวกันอยู่ทุกทิศ (ไม่เห็นในภาพ)อนึ่ง ปราสาทหลังนี้ยังคงสร้างปราสาทจำนวนน้อยหลังบนฐานเป็นชั้น เนื่องจากฐานเป็นชั้นนี้สร้างอยู่บนพื้นราบ ในระยะต่อไป ปราสาทจะพัฒนาขึ้นจนกลายเป็นปราสาทบนฐานเป็นชั้นที่มีปราสทอยู่ด้านบนฐานเป็นจำนวนมากและมีความซับซ้อนมากขึ้น
สถาปัตยกรรมปราสาทบริวารของปราสาทบากอง
ภาพปราสาทบริวารของปราสาทบากอง เป็นปราสาทอิฐที่แตกต่างด้วยปูนปั้น ตั้งอยู่บนพื้น กระจายตัวกันอยู่ทุกทิศ จำนวนแปดหลัง (ด้านละสองหลังดังที่เห็นในภาพ)
สถาปัตยกรรมปราสาทประธาน : ปราสาทบากอง
เป็นที่น่าแปลกว่า ปราสาทประธานของปราสาทบากองกลับสร้างด้วยหินทรายและมีลวดลายในสมัยนครวัด ซึ่งแตกต่างไปจากองค์ประกอบโดยรวมของปราสาทบากองที่มีอายุอยู่ในสมัยพระโค อันแสดงให้เห็นว่า ปราสาทประธานหลังนี้ถูกสร้างใหม่ในสมัยนครวัด ซ่งออาจทดแทนปราสาทหลังเดิมของปราสาทบากองที่สร้างด้วยอิฐและอาจพังทลายลงในสมัยนครวัดลักษณะของปราสาทในสมัยนครวัดก็คือ การมีแผนผังเพิ่มมุม การตกแต่งด้วยนางอัปสรที่แต่งกายตามแบบนครวัดและการประดับกลีบขนุนที่ยอดด้านบน
สถาปัตยกรรมปราสาทตระพังพง
ปราสาทก่อด้วยอิฐและประดับด้วยปูนปั้นตามแบบสถาปัตยกรรมพระโคโดยทั่วไป เรือนธาตุมีการประดับด้วยภาพเทพธิดาเช่นเดียวกับปราสาทพระโคและโลเลย ส่วนทับหลังและประตูหลอกสร้างด้วยหิน สลักเป็นลายหน้ากาลคายท่อนพวงมาลัยประดับมกรที่ปลายสุดตามแบบอิทธิพลชวา ยอดปราสาทมีเรือนธาตุจำลองซ้อนชั้นตามแบบวิมานอินเดียใต้ แต่เก็จประธานกลับมีการยกมุมแตกออกเป็นเก็จย่อยๆ ซึ่งคล้ายคลึงกับปราสาทในสมัยก่อนเมืองพระนคร อนึ่ง ศิลปะพระโคถือเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อระหว่างสมัยก่อนเมืองพระนครกับสมัยพระนคร ด้วยเหตุนี้จึงมีลักษณะบางอย่างปะปนกันได้