ค้นหางานศิลปกรรม

ฐานข้อมูลศิลปกรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

 
 
 
 
 
 
 
แสดง 377 ถึง 384 จาก 522 รายการ, 66 หน้า
ช่อฟ้าวัดเชียงทอง
หลวงพระบาง
สถาปัตยกรรมช่อฟ้าวัดเชียงทอง

สิมวัดเชียงทอง ถือเป็นสิมในศิลปะล้านช้างสกุลช่างหลวงพระบางที่สมบูรณ์ที่สุด บนสันหลังคาปรากฏ “ช่อฟ้า” หรือเขาพระสุเมรุจำลอง อันสื่อให้เห็นว่าสิมเป็นศูนย์กลางจักรวาล ช่อฟ้าประกอบด้วยเขาพระสุเมรุ ล้อมรอบด้วยเสาสัตตบริภัณฑ์จำนวน 7 ลูกซึ่งมีความสูงลดหลั่นกัน ที่ขอบปรากฏเขาจักรวาล ด้านล่างปรากฏปลาอันแทนมหาสมุทร เขาพระสุเมรุในลักษณะนี้ปรากฏในจิตรกรรมเสมอๆ ทั้งในศิลปะพม่าและศิลปะไทย ซึ่งคงจะเป็นต้นแบบให้กับช่อฟ้าในศิลปะล้านช้างนั่นเอง

ซุ้มประตูสิมวัดเชียงทอง
หลวงพระบาง
สถาปัตยกรรมซุ้มประตูสิมวัดเชียงทอง

สิมวัดเชียงทอง ถือเป็นสิมในศิลปะล้านช้างสกุลช่างหลวงพระบางที่สมบูรณ์ที่สุด การตกแต่งภายในของสิมแห่งนี้ก็งดงามอย่างมาก คือตกแต่งไปด้วยลายคำเต็มพื้นที่ สำหรับผนังด้านหน้าแต่นี้ปรากฏลายคำเป็นรูปเทวดากำลังไหว้เจดีย์ซึงน่าจะหายถึงเจดีย์จุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ซุ้มประตูของสิมมีลักษณะตามแบบล้านช้าง ซึ่งมีลักษณะหลายประการร่วมกับศิลปะล้านนา คือ เสาซุ้มประดับด้วยลวดลายสามจุด กาบบน-กาบล่าง-ประจำยามอก ยอดปราสาทปรากฏหลังคาลาดขนาดใหญ่ 1 ชั้นซ้อนด้วยชั้นเชิงบาตรขึ้นไปอีกหลายชั้น

โรงเมี้ยนโกศวัดเชียงทอง
หลวงพระบาง
สถาปัตยกรรมโรงเมี้ยนโกศวัดเชียงทอง

โรงเมี้ยนโกศ ถือเป็นอาคารรุ่นหลังที่สุดที่ปรากฏ ณ วัดเชียงทอง สร้างขึ้นเพื่อใช้เก็บโกศและพระราชรถ ด้วยเหตุนี้ ผนังด้านหน้าจึงประกบด้วยแผ่นไม้จำนวนมากเพื่อการ ถอด-ประกอบได้ถ้าจำเป็นต้องเชิญรารถออกใช้ในงานพระเมรุ แผงด้านหน้ามีภาพสลักเรื่องรามเกียรติ์หลายเรื่อง เช่น เรื่องนางสีดาลุยไฟ เรื่องพระรามรบกับยักษ์ เรื่องทศกัณฑ์สู้กับนกชดายุและเรื่องทศกัณฑ์ล้ม เป็นต้น ภาพสลักเหล่านี้สลักขึ้นโดย “เพียตัน” ซึ่งเป็นช่างในราชสำนักในสมัยปลายพุทธศตวรรษที่ 25 ถึงต้นพุทธศตวรรษที่ 26 โดยช่างผู้นี้มีลักษณะเฉพาะที่ต่อมาจะกลายเป็นสกุลช่างของศิลปะลาวปัจจุบันคือ มีการสลักตัวละครให้มีปริมาตรกลมกลึงตามอย่างสัจนิยม แต่สวมเครื่องละครตามแบบประเพณี และภาพสลักอยู่ท่ามกลางลายกนกซึ่งทำให้ภาพไม่มีพื้นที่ว่างเปล่า

สิมวัดคีลี
หลวงพระบาง
สถาปัตยกรรมสิมวัดคีลี

สิมวัดคีลี ถือเป็นตัวอย่างสิมแบบเชียงขวางที่สมบูรณ์ที่สุดในเมืองหลวงพระบาง ในขณะที่สิมสกุลช่างเชียงขวางที่เมืองคูนเองกลับถูกทำลายจนหมดสิ้นจากภัยสงคราม ทำให้การศึกษาสิมในสกุลช่างเชียงขวางอาจศึกษาจากเมืองหลวงพระบางเท่านั้น ลักษณะของสิมสกุลช่างเชียงขวาง มีลักษณะที่คล้ายคลึงกับสิมแบบหลวงพระบางอย่างมาก ทั้งในแง่ของหน้าบันที่มีกรอบอ่อนโค้งและยาวลงมาเกือบจรดพื้น รวมถึงลักษณะหน้าบันที่เป็นกรอบไม้ต่างไหมและอย่างไรก็ตาม ประเด็นแตกต่างที่ชัดเจนที่สุดก็คือ ในขณะที่หน้าบันของสิมสกุลช่างหลวงพระบางมักมีการแบ่งเป็น “ปีกนก” แต่สกุลช่างเชียงขวางกลับไม่แบ่งปีกนกแต่อย่างใด

สิมวัดปากคาน
หลวงพระบาง
สถาปัตยกรรมสิมวัดปากคาน

สิมวัดปากคาน ถือเป็นตัวอย่างของสิมแบบไทยลื้อที่ดีที่สุดในเมืองหลวงพระบาง ลักษณะของสิมแบบไทยลื้อก็คือ เป็นอาคารที่มีคอสองกว้าง และมีความสูงของหลังคาทางด้านหน้าและด้านยาวเท่ากัน สิมแบบไทยลื้อปรากฏความนิยมอยู่ที่แคว้นสิบสองปันนา ซึ่งปัจจุบันอยู่ทางตอนใต้ของมณฑลยุนนานของจีน การปรากฏสิมแบบไทยลื้อที่เมืองพลวงพระบาง แสดงให้เห็นการอพยพเคลื่อนย้ายของคนไทยลื้อจากสิบสองปันนาลงมาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่เมืองหลสวงพระบางแห่งนี้

สิมวัดใหม่
หลวงพระบาง
สถาปัตยกรรมสิมวัดใหม่

สิมวัดใหม่ มีลักษณะของการซ้อนชั้นหลังคาที่โดดเด่น อาคารอยู่ในผังสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่เกือบจะคล้ายกับสี่เหลี่ยมจัตุรัส หลังคาชั้นบนสุดซ้อนแบบ “ลอย” อยู่บนหลังคาหลัก ถัดลงมาเป็นหลังคาปีกนกที่ครอบคลุมพาไลต่อเนื่องลงมาหลายชั้น แต่ละชั้นมีคอสองสูง ด้านหน้ายังปรากฏ “หอขวาง” ซึ่งถือเป็นลักษณะที่โดดเด่นสำหรับสิมแห่งนี้

จิตรกรรมในเจดีย์อเพยทนะ
พุกาม
จิตรกรรมจิตรกรรมในเจดีย์อเพยทนะ

อิทธิพลของศิลปะปาละที่สังเกตได้ก็คือ การใช้สีโทนร้อนเป็นหลัก เช่น สีแดง สีเหลือง สีดำและสีขาว ส่วนสีโทนเย็น เช่น สีเขียวแทบไม่ปรากฏ ภายในทางประทักษิณภายในปรากฏซุ้มจระนำซึ่งเคยประดิษฐานพระพุทธรูปมาก่อน ซุ้มจระนำเหล่านี้ขนาบข้างโดยพระโพธิสัตว์ในลัทธิมหายาน โดยพระโพธิสัตว์เหล่านี้แต่งตัวคล้ายคลึงกับศิลปะปาละอย่างมาก เช่น การทรงมงกุฎที่มีกระบังหน้าสามตาบ การทรงยัชโญปวีตตวัดเป็นรูปตัว S และการนุ่งผ้านุ่งเป็นริ้ว

พระโพธิสัตว์มัญชุศรี จิตรกรรมในเจดีย์อเพยทนะ
พุกาม
จิตรกรรมพระโพธิสัตว์มัญชุศรี จิตรกรรมในเจดีย์อเพยทนะ

อิทธิพลของศิลปะปาละที่สังเกตได้ก็คือ การใช้สีโทนร้อนเป็นหลัก เช่นสีแดง สีเหลือง สีดำและสีขาว ส่วนสีโทนเย็นเช่นสีเขียวแทบไม่ปรากฏ ภายในทางประทักษิณภายในปรากฏซุ้มจระนำซึ่งเคยประดิษฐานพระพุทธรูปมาก่อน ซุ้มจระนำเหล่านี้ขนาบข้างโดยพระโพธิสัตว์ในลัทธิมหายาน โดยพระโพธิสัตว์เหล่านี้แต่งตัวคล้ายคลึงกับศิลปะปาละอย่างมาก เช่น การทรงมงกุฎที่มีกระบังหน้าสามตาบ การทรงยัชโญปวีตตวัดเป็นรูปตัว S และการนุ่งผ้านุ่งเป็นริ้ว