ค้นหางานศิลปกรรม

ฐานข้อมูลศิลปกรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

 
 
 
 
 
 
 
แสดง 9 ถึง 16 จาก 23 รายการ, 3 หน้า
ปราสาทเฝื๊อกหล็อก
บิ่ญดิน
สถาปัตยกรรมปราสาทเฝื๊อกหล็อก

เป็นปราสาทหลังเดี่ยว มีเสาติดผนังจำนวน 5 ต้น เป็นเสาที่ไม่มีร่องและไม่มีลวดลายใดๆ ตรงกลางมีซุ้มจระนำรูปปราสาทที่ตกแต่งด้วยซุ้มใบหอก ด้านบนปราสาทมีชั้นซ้อนตามแบบวิมานแต่ปราสาทมุมได้พังทลายไปหมดแล้ว เสาติดผนังจำนวน 5 ต้นและการไม่ตกแต่งเสาติดผนัง รวมถึงซุ้มทรงใบหอก ทำให้สามารถกำหนดอายุได้ว่าปราสาทหลังนี้อยู่ในสมัยบิญดิ่นตอนปลาย อนึ่งปราสาทสมัยนี้ยังนิยมตั้งอยู่โดดๆ และมีความสูงเป็นอย่างมาก ทำให้สามารถเห็นได้ในระยะไกล

ปราสาทถูเทียน
บิ่ญดิน
สถาปัตยกรรมปราสาทถูเทียน

เป็นปราสาทหลังโดด มีความสูงเป็นอย่างมาก ตั้งอยู่บนพื้นราบ ปราสาทประดับด้วยเสาติดผนังจำนวน 5 ต้นที่ไม่มีร่องและไม่มีลวดลาย ยอดด้านบนซ้อนชั้นด้วยเรือนธาตุจำลองตามแบบวิมาน ที่มุมของชั้นหลังคาปรากฏปราสาทจำลองทรงพุ่ม ซึ่งมีรูปแบบคล้ายคลึงกับปราสาทแก๋งเตียน การที่ปราสาทมีความสูงเป็นอย่างมาก มีเสาติดจำนวน 5 ต้นที่ไม่มีร่องและไม่มีลวดลาย แสดงให้เห็นลักษณะของปราสาทแบบบิญดิ่นตอนปลาย ปราสาทจำลองทรงพุ่มที่มุมของชั้นหลังคาก็ถือเป้นลักษณะเฉพาะของสมัยนี้เช่นเดียวกัน

ปราสาทบิญหลำ
บิ่ญดิน
สถาปัตยกรรมปราสาทบิญหลำ

เป็นปราสาทสมัยบิญดิ่นตอนต้นที่งดงามด้วยการตกแต่งซุ้มจระนำทรงปราสาท เรือนธาตุมีการตกแต่งด้วยเสาติดผนังจำนวน 5 ต้น มีร่องแต่ไม่มีลวดลายแล้ว ส่วนกลางของเรือนธาตุปราสาทปราสาทจำลองบดบังเสาต้อนที่ห้า ประดับไปด้วยซุ้มกาล-มกรแบบอิทธิพลชวาซึ่งยังตกทอดลงมาจนถึงระยะนี้ การที่เรือนธาตุมีการตกแต่งด้วยเสาติดผนังจำนวน 5 ต้น มีร่องแต่ไม่มีลวดลาย โดยที่ร่องไม่ได้ทะลุเลยบัวหัวเสาอีกต่อไปนั้น ถือเป็นลักษณะของศิลปะบิญดิ่นตอนต้น ประเด็นนี้ตอบรับกับซุ้มกาล-มกรแบบอิทธิพลชวาซึ่งแพร่หลายมาตั้งแต่ศิลปะมิเซิน A1 และยังปรากฏตกทอดอยู่มาจนถึงศิลปะบิญดิ่นตอนต้น

ซุ้มทรงปราสาทของปราสาทบิญหลำ
บิ่ญดิน
สถาปัตยกรรมซุ้มทรงปราสาทของปราสาทบิญหลำ

เป็นปราสาทสมัยบิญดิ่นตอนต้นที่งดงามด้วยการตกแต่งซุ้มจระนำทรงปราสาท ปราสาทจำลอง ประดับไปด้วยซุ้มกาล-มกรแบบอิทธิพลชวาซึ่งยังตกทอดลงมาจนถึงระยะนี้ชั้นซ้อนของปราสาทจำลอง ปรากฏชั้นซ้อนจำลนวนสี่ชั้น แต่ละชั้นประดับไปด้วยซุ้มจระนำและอาคารจำลองอย่างงดงาม โดยซุ้มทั้งหมดทับอยู่บนกรอบรูปใบหอกอีกทีหนึ่ง เนื่องด้วยซุ้มปราสาทดังกล่าวปรากฏ “ซุ้มกาล-มกร” แบบอิทธิพลชวาซึ่งแพร่หลายมาตั้งแต่ศิลปะมิเซิน A1 และยังปรากฏตกทอดอยู่มาจนถึงศิลปะบิญดิ่นตอนต้น ดังนั้นเมื่อศึกษาร่มกับเสาติดผนังทำให้ทราบว่าปราสาทแห่งนี้อยู่ในระยะหัวเลี้ยวหัวต่อระหว่างมิเซิน A1 กับบิญดิ่นตอนต้น

ปราสาทถาปดอย
บิ่ญดิน
สถาปัตยกรรมปราสาทถาปดอย

ปราสาทถาปดอย เป็นปราสาทที่ได้รับอิทธิพลของศิลปะขอมอย่างมาก ดังที่มีการใช้หินตามแบบขอมแทรกเข้าในอาคารที่ใช้อิฐเป็นวัสดุหลัก นอกจากนี้ ปราสาทยังมีการประดับกลีบขนุน ทำให้ยอดของปราสาทกลายเป็นทรงพุ่มดังที่ปรากฏที่ปราสาทขอมตั้งแต่สมัยนครวัดลงมา นอกจากนี้ การใช้ “ครุฑแบก” แบกที่มุมปราสาทยังเกี่ยวข้องกับศิลปะขอมอีกด้วย เนื่องจากจามตกเป็นเมืองขึ้นของขอมในสมัยบิญดิ่นตอนปลาย ร่วมสมัยกับพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ของขอม ด้วยเหตุนี้ จึงสามารถกำหนดอายุปราสาทที่ได้อิทธิพลขอมว่าควรอยู่ในสมัยบิญดิ่นตอนปลาย

ยอดของปราสาทถาปดอย
บิ่ญดิน
สถาปัตยกรรมยอดของปราสาทถาปดอย

ปราสาทถาปดอย เป็นปราสาทที่ได้รับอิทธิพลของศิลปะขอมอย่างมาก ดังที่มีการใช้หินตามแบบขอมแทรกเข้าในอาคารที่ใช้อิฐเป็นวัสดุหลัก นอกจากนี้ ปราสาทยังมีการประดับกลีบขนุน ทำให้ยอดของปราสาทกลายเป็นทรงพุ่มดังที่ปรากฏที่ปราสาทขอมตั้งแต่สมัยนครวัดลงมา นอกจากนี้ การใช้ “ครุฑแบก” แบกที่มุมปราสาทยังเกี่ยวข้องกับศิลปะขอมอีกด้วย เนื่องจากจามตกเป็นเมืองขึ้นของขอมในสมัยบิญดิ่นตอนปลาย ร่วมสมัยกับพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ของขอม ด้วยเหตุนี้ จึงสามารถกำหนดอายุปราสาทที่ได้อิทธิพลขอมว่าควรอยู่ในสมัยบิญดิ่นตอนปลาย

ปราสาทแก๋งเตียน
บิ่ญดิน
สถาปัตยกรรมปราสาทแก๋งเตียน

เป็นปราสาทที่มีเสาติดผนังห้าต้น โดยเสาไม่มีร่องและไม่มีลวดลายประดับใดๆ ยกเว้นเสาต้นข้างที่ตกแต่งด้วยหิน อันแสดงอิทธิพลบายน ยอดปราสาทเป็นชั้นวิมานตามแบบจามแท้ อย่างไรก็ตาที่มุมมีการประดับด้วยปราสาทจำลองซึ่งเป็นพุ่มคล้ายถะจีน ปราสาทจำลองที่เป็นพุ่มนี้ปรากฏเช่นกันกับเทวาลัยในระยะเดียวกัน เช่นปราสาททูเทียน เป็นต้น จากเสาติดผนังห้าต้นที่ไม่มีลายประดับ การประดับหินตามอิทธิพลบายน และรูปแบบปราสาทมุมที่เป็นพุ่ม ทำให้กำหนดอายุได้ว่าอยู่ในศิลปะบิญดิ่นตอนปลาย

ปราสาทโพนคร
ญาจาง
สถาปัตยกรรมปราสาทโพนคร

ปราสาทโพนคร เป็นปราสาทในระยะหัวเลี้ยวหัวต่อระหว่างสมัยมิเซิน A1 และบิญดิ่น ดังจะเห็นได้จากเสาติดผนังจำนวน 5 ต้นที่ยังคงมีร่องเสาอยู่ตามแบบมิเซิน A1 แต่ไม่มีลวดลายแล้ว ส่วนซุ้มกลับเป็นใบหอกตามแบบบิญดิ่น