ค้นหางานศิลปกรรม
ฐานข้อมูลศิลปกรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
หอนางอุสา
คำสำคัญ : หลักหิน, ใบเสมา, หอนางอุสา, ภูพระบาท
| ชื่อหลัก | ภูพระบาท |
|---|---|
| ประเภทงานศิลปะ | สถาปัตยกรรม |
| ที่อยู่ | บ้านติ้ว |
| ตำบล | เมืองพาน |
| อำเภอ | บ้านผือ |
| จังหวัด | อุดรธานี |
| ภาค | ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ |
| ประเทศ | ไทย |
| พิกัดภูมิศาสตร์ ค่าองศาทศนิยม | Lat : 17.732129 Long : 102.352872 |
| พิกัดภูมิศาสตร์ พิกัดกริด | Zone : 47 Q Hemisphere : N E : 219324.79 N : 1962602.01 |
| ตำแหน่งงานศิลปะ | ใกล้กลุ่มเพิงหินถ้ำพระ-วัดพ่อตา |
| ประวัติการสร้าง | ไม่ทราบประวัติการสร้างที่แน่ชัด แต่เชื่อว่าหลักหิน-ใบเสมาที่ล้อมรอบควรปักในช่วงที่วัฒนธรรมปักหินที่นิยมเรียกว่าทวารวดีภาคตะวันออกเฉียงเหนือแพร่หลายอยู่ หรือราวพุทธศตวรรษที่ 14-16 ในขณะที่ตัวโขดหินที่เรียกว่าหอนางอุสาอาจได้รับการบูชาในฐานะสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาก่อนหน้านั้นแล้ว และยังคงใช้งานสืบเนื่องต่อมาแม้สิ้นสมัยทวารวดีแล้วก็ตาม |
|---|---|
| ลักษณะทางศิลปกรรม | โขดหินรูปร่างประหลาดที่เรียกกันในปัจจุบันว่า หอนางอุสา มีลักษณะเป็นแท่งเสาหินธรรมชาติที่มีหินก้อนใหญ่อีกก้อนหนึ่งวางทับอยู่ด้านบน กลายเป็นเพิงสำหรับพักอาศัยหรือประกอบกิจกรรมต่างๆ ได้ มีการกั้นผนังด้วยก้อนหิน ทำให้เพิงหินมีสภาพกลายเป็นห้อง รูปลักษณ์ของหอนางอุสาเกิดขึ้นจากปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ ในอดีตกาลหลายล้านปีมาแล้วชั้นหินบริเวณนี้ยังอ่อนอยู่ทำให้เกิดการกัดเซาะหรือชะด้วยน้ำและลม ส่วนใดที่อ่อนตัวมากก็ถูกกัดเซาะหรือชะจนหายไป ส่วนใดที่แข็งแรงทนทานก็จะยังคงตัวอยู่ได้ จากรูปร่างของหอนางอุสาอธิบายได้ว่า แท่งเสาหินและก้อนหินที่ค้างอยู่ด้านบนเป็นชั้นหินที่แข็งแรงทนทานต่อการกัดเซาะ ชั้นหินที่เคยอยู่ตรงกลางระหว่างหินทั้งสองส่วนอ่อนตัวกว่าจึงง่ายต่อการกัดเซาะ ในที่สุดจึงถูกกัดเซาะหายไป ทำให้หินชั้นบนกลายเป็นก้อนหินใหญ่ที่วางตั้งอยู่ในหินชั้นล่างที่กลายสภาพเป็นแท่งเสา รอบๆ หอนางอุสาเป็นลานหินขนาดใหญ่ มีหลักหิน-ใบเสมาปักบนลานหินเพื่อล้อมรอบหอนางอุสา |
| ข้อมูลที่สำคัญทางวิชาการ | หอนางอุสารวมถึงโขดหินหรือเพิงหินหลายแห่งบนภูพระบาทมีหลักหิน-ใบเสมาปักล้อมรอบ สะท้อนให้เห็นถึงการผสมผสานระหว่างการนับถือบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในธรรมชาติ ซึ่งอาจเทียบได้กับเจ้าที่ เจ้าป่า เจ้าเขา กับประเพณีการปักหินล้อมพื้นที่ในคติพุทธศาสนาแบบทวารวดีอีสาน เป็นหนึ่งในหลักฐานที่แสดงว่าหลักหิน-ใบเสมาทวารวดีอีสานมิได้ทำขึ้นเพื่อปักล้อมรอบอุโบสถเท่านั้น โขดหินรูปร่างแปลกตาเช่นหอนางอุสาแห่งนี้พบได้มากบนภูพระบาท ผู้คนในสมัยก่อนคงไม่สามารถอธิบายถึงที่มาตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้ อาจเชื่อกันว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์บันดาลให้เกิด หรือเป็นที่สถิตของสิ่งศักดิ์สิทธิ์อันให้คุณให้โทษได้ จึงเกิดการสักการบูชาโขดหินเหล่านี้ หรืออย่างน้อยก็อยู่ใน |
| ยุค | ประวัติศาสตร์ |
| สมัย/รูปแบบศิลปะ | ทวารวดี |
| อายุ | พุทธศตวรรษที่ 14-16 |
| ศาสนา | พุทธ |
| ศาสนา/ความเชื่อที่เกี่ยวข้อง | พุทธศาสนา, ความเชื่อท้องถิ่น |
| ตำนานที่เกี่ยวข้อง | ตำนานท่องถิ่นเรื่องอุสาบารสเล่าว่าโขดหินนี้เป็นที่อยู่ของนางอุสา จึงเป็นที่มาของการเรียกว่า หอนางอุสา |
| รูปแบบลิขสิทธิ์ | Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND) |
|---|---|
| เจ้าของสิทธิ์ | ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) |
| วันที่จัดทำข้อมูล | 2015-09-20 |
| ผู้จัดทำข้อมูล | รุ่งโรจน์ ธรรมรุ่งเรือง |
| บรรณานุกรม | โบราณคดี, กอง. อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท. กรุงเทพฯ : กองโบราณคดี, 2537. พิทักษ์ชัย จัตุชัย. “การวิเคราะห์การใช้พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี” (วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาโบราณคดีสมัยประวัติศาสตร์ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร), 2553. รุ่งโรจน์ ธรรมรุ่งเรือง. รายงานการวิจัยเรื่องหลักหิน-ใบเสมาในวัฒนธรรมทวารวดีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. กรุงเทพฯ : สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยศิลปากร, 2557. |