ค้นหางานศิลปกรรม
ฐานข้อมูลศิลปกรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรเปล่งรัศมี
คำสำคัญ : ปราสาทเมืองสิงห์, เมืองสิงห์, พระโพธิสัตว์, พระเจ้าชัยวรมันที่ 7, บายน, ลพบุรี, ศิลปะเขมรในประเทศไทย, พระอวโลกิเตศวรเปล่งรัศมี
ชื่อหลัก | พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร |
---|---|
ประเภทงานศิลปะ | ประติมากรรม |
ตำบล | พระบรมมหาราชวัง |
อำเภอ | เขตพระนคร |
จังหวัด | กรุงเทพมหานคร |
ภาค | ภาคกลาง |
ประเทศ | ไทย |
พิกัดภูมิศาสตร์ ค่าองศาทศนิยม | Lat : 13.7576 Long : 100.492222 |
พิกัดภูมิศาสตร์ พิกัดกริด | Zone : 47 P Hemisphere : N E : 661329.97 N : 1521418.09 |
ตำแหน่งงานศิลปะ | จัดแสดงภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร |
ประวัติการสร้าง | ไม่ปรากฏหลักฐานเอกสารที่เกี่ยวข้องกับประวัติการสร้าง แต่จากรูปแบบทางศิลปกรรมที่เป็นศิลปะเขมรแบบบายนจึงกำหนดอายุได้ราวพุทธศตวรรษที่ 18 สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 นักวิชาการบางท่านเชื่อว่าเมืองสิงห์อันเป็นสถานที่ค้นพบประติมากรรมองค์นี้น่าจะตรงกับเมืองชัยสิงหปุระในจารึกปราสาทพระขรรค์ ซึ่งพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 โปรดให้ส่งพระชัยพุทธมหานาถมาประดิษฐานไว้ หากข้อสันนิษฐานข้างต้นนี้เป็นจริงก็อาจตั้งข้อสังเกตถึงความใกล้ชิดระหว่างเมืองพระนครกับเมืองสิงห์ได้ จนอาจตั้งคำถามต่อเนื่องได้ว่าประติมากรรมพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรเปล่งรัศมีองค์นี้เป็นสิ่งที่สร้างขึ้นในเมืองพระนครแล้วถูกส่งมาประดิษฐานที่เมืองสิงห์เช่นเดียวกันกับพระชัยพุทธมหานาถได้หรือไม่ |
---|---|
กระบวนการสร้าง/ผลิต | หินทรายแกะสลัก |
ขนาด | สูง 161 เซนติเมตร |
ลักษณะทางศิลปกรรม | พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรเปล่งรัศมีอยู่ในอิริยาบถยืนตรงบนฐานหน้ากระดานสี่เหลี่ยม สภาพสมบูรณ์มากมีเพียงพระกรทั้งแปดที่หักหายไป พระพักตร์เหลี่ยม พระเนตรปิด แย้มพระโอษฐ์เล็กน้อยตามอย่างศิลปะเขมรแบบบายน ทำให้เกิดความรู้สึกสงบ เกล้าพระเกศาเป็นมวยทรงกระบอก มีรูปพระพุทธเจ้าอมิตาภะประดับมวยผม และมีพระพุทธรูปจำนวนมากประดับพระเศียรแทนเส้นพระเกศา พระองค์ส่วนบนประดับด้วยแถวพระพุทธรูปจำนวนมากมายราวกับเป็นเกราะ กึ่งกลางพระอุระและบั้นพระองค์ปรากฏรูปบุคคลขนาดใหญ่ อาจหมายถึงนางปรัชญาปารมิตา พระกรทั้งแปดหักหายไปแล้ว สวมสมพตสั้นที่สลักลวดลายอย่างคร่าวๆ ช่วงล่างของพระองค์ตั้งแต่พระอูรุ (ต้นขา) จนถึงพระบาทใหญ่ผิดสัดส่วน สวมธำมรงค์ที่นิ้วพระบาททั้งสิบ |
ข้อมูลที่สำคัญทางวิชาการ | พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรองค์นี้แม้ว่าพระหัตถ์จะหักหายไปแล้ว แต่โดยรวมนับว่าอยู่ในสภาพสมบูรณ์มาก เป็นประติมากรรมที่มีรูปแบบตามศิลปะเขมรแบบบายน อายุราวพุทธศตวรรษที่ 18 ค้นพบที่ปราสาทเมืองสิงห์ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี นับเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างดินแดนภาคตะวันตกของไทยกับกัมพูชาในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ได้ดียิ่ง นอกจากนี้ยังแสดงถึงการเจริญขึ้นของพุทธศาสนามหายานในดินแดนไทยด้วย |
ข้อสังเกตอื่นๆ | ค้นพบที่ปราสาทเมืองสิงห์ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี |
ยุค | ประวัติศาสตร์ |
สมัย/รูปแบบศิลปะ | ลพบุรี, เขมรในประเทศไทย, บายน |
อายุ | พุทธศตวรรษที่ 18 |
ลัทธิ/นิกาย | มหายาน |
ศาสนา/ความเชื่อที่เกี่ยวข้อง | พุทธศาสนามหายาน |
ตำนานที่เกี่ยวข้อง | พุทธศาสนามหายาน พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรเปล่งรัศมีสร้างขึ้นจากความเชื่อว่าพระองค์เป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวาล ขุมขนหนึ่งๆ คือหนึ่งจักรวาลที่บรรจุอยู่ภายในพระวรกาย แสดงออกมาโดยแถวพระพุทธเจ้าที่รายรอบทั่วพระองค์ส่วนบนและพระเศียร |
งานศิลปะที่เกี่ยวข้อง | 1. พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรเปล่งรัศมีจากสระโกสินารายณ์ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี 2. พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรเปล่งรัศมีจากถ้ำคูหาสวรรค์ อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี |
รูปแบบลิขสิทธิ์ | Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND) |
---|---|
เจ้าของสิทธิ์ | ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) |
วันที่จัดทำข้อมูล | 2016-09-30 |
ผู้จัดทำข้อมูล | รุ่งโรจน์ ธรรมรุ่งเรือง |
บรรณานุกรม | ฟิโนต์, หลุยส์. “พระโพธิสัตว์เปล่ารัศมี” แปลโดย หม่อมเจ้าสุภัทรดิศ ดิศกุล, ศิลปากร ปีที่ 10, ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม 2509), หน้า 46-51. สุภัทรดิศ ดิศกุล, หม่อมเจ้า. ประติมากรรมขอม. กรุงเทพฯ : กรุงสยามการพิมพ์, 2515. สุภัทรดิศ ดิศกุล. ศิลปะขอม. กรุงเทพฯ : องค์การค้าของคุรุสภา, 2533. สุภัทรดิศ ดิศกุล, หม่อมเจ้า. ศิลปะสมัยลพบุรี. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยศิลปากร, 2547. |